“ไก่ใต้น้ำ” คือเมนูอาหารพื้นบ้านทางภาคอีสานสุดแซบที่ใคร ๆ ได้ชิมก็ต้องรอขอข้าวเพิ่มกันแน่นอน เพราะเมนูนี้สร้างสรรค์มาจากวิถีชาวบ้านในภาคอีสาน มาพร้อมด้วยวิธีการทำอาหารที่แปลกแตกต่างจากทั่วไป ทำให้หอมเครื่องเทศและได้ไก่ที่นุ่มลิ้นน่ารับประทาน ได้ข้าวเหนียวสักกระติบมีหวังไก่ตัวเดียวไม่พอแน่เลย วันนี้เรามาแนะนำสูตรและขั้นตอนวิธีทําไก่ใต้น้ำง่ายๆ แสนอร่อยกันค่ะ
วัตถุดิบ / ส่วนผสม
- พริกแห้ง
- ข่า
- ตะไคร้
- กระเทียม
- ใบมะกรูด
- เกลือ
- หอมแดง
- พริกไทย
- น้ำมันหอย
- ซีอิ้วขาว
- ซอสปรุงรส
- น้ำตาล
แนะนำ : เคล็ดลับการเลือกซื้อไก่บ้าน ลักษณะของไก่บ้านจะมีเนื้อที่เหนียวกว่าไก่เนื้อ มีหนังสีเหลืองและบางกว่า วิธีการเลือกซื้อเครื่องไก่ ต้องเลือกไก่ที่หนังไม่เหี่ยวย่น ไม่ซีดมากและไม่มีจ้ำเขียว ส่วนอกเนื้อต้องอวบแน่น ดมแล้วไม่มีกลิ่นเหม็น เมื่อผ่าดูเนื้อด้านในเป็นสีชมพูสด เนื้อไม่เขียว ต้องรอยคอไก่ไม่เขียวช้ำ แสดงว่าเป็นไก่สดใหม่แน่นอนค่ะ
ขั้นตอน วิธีทำไก่ใต้น้ำ
- โขลกพริกแห้ง ข่า ตะไคร้ กระเทียม หอมแดง พริกไทยพอละเอียด จากนั้นซอยใบมะกรูดเป็นเส้นเล็ก ๆ มาผสมเข้าด้วยกัน
ล้างไก่ให้สะอาด สับไก่เป็นชิ้น ๆ นำไก่ไปล้างเศษกระดูกและเลือดออก จะได้ไม่มีกลิ่นคาวเลือด สะเด็ดน้ำไก่ออก ซับด้วยผ้าหรือทิชชู่จนเนื้อไก่แห้ง - นำไก่ที่หั่นแล้วมาผสมกับน้ำมันหอย ซีอิ้วขาว ซอสปรุงรส เกลือ และน้ำตาล หมักทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง หรือนานกว่านั้นก็ได้เพื่อให้ไก่นุ่มขึ้น
พอหมักไก่คนเครื่องปรุงซึมเข้าเนื้อไก่แล้ว นำมาคลุกเคล้ากับเครื่องแกงที่เตรียมไว้จนได้ที่ หมักทิ้งไว้นาน 1 ชั่วโมง - หม้อนึ่งมาใส่ไก่ที่หมักไว้แล้ว จากนั้นนำกะละมังแตนเลสมาวางไว้ด้านบนหม้อนึ่ง ใส่น้ำลงไปในกะละมังประมาณ ¾ และนำผ้าขาวมาปิดรอบ ๆ รอยต่อของหม้อนึ่งและกะละมัง เพื่อกันไม่ให้ไอน้ำระเหยออกมา
- ระหว่างนึ่งให้คอยเปลี่ยนน้ำในกะละมังบ่อย ๆ ห้ามให้น้ำในกะละมังเดือดเด็ดขาด โดยการตักน้ำเก่าทิ้งไปและเติมน้ำใหม่ใส่เข้าไป ทำแบบนี้ 4-5 รอบ หรือประมาณ 40 นาที แต่ถ้าไก่เนื้อเหนียวก็สามารถนึ่งต่อไปนานกว่านี้ได้ พอครบ 40 นาทีหรือไก่สุกแล้ว ให้นำกะละมังออก และจับดูว่าไก่นุ่มเป็นที่พอใจหรือยัง ถ้ายังก็เคี่ยวไก่จนนุ่มต่อ
- ตักเสิร์ฟพร้อมข้าวสวย หรือข้าวเหนียวได้ตามใจชอบ
บทสรุป
เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับ ไก่ใต้น้ำเมนูอาหารยอดนิยมของภาคอีสานที่แสนอร่อยของใครหลายคน ซึ่งมีวิธีการทำก็ไม่ยุ่งยากสมการรอคอยอย่างยิ่ง หากวันไหนว่าง ๆ อย่าลืมทำเมนูนี้ไว้ลองรับประทานกับครอบครัวกันดูนะคะ